เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 เวลา 11.00 น. นายสรจักร บูรณะสัมฤทธิ กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ได้เข้าพบนายแพทย์ Abdulrahman Bakhsh ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกษัตริย์ฟาฮัด (King Fahad Hospital) เมืองเจดดาห์ เพื่อหารือถึงการเตรียมการส่งตัวผู้แสวงบุญฮัจย์ชาวไทยกลับไปรักษาตัวที่ประเทศไทย

ทั้งนี้ ผู้แสวงบุญชาวไทยรายดังกล่าวได้เดินทางมาประกอบพิธีฮัจย์เมื่อปี 2561 และเกิดล้มป่วยต้องเข้ารับการผ่าตัดและนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ตามกำหนดจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 10 เดือน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สถานกงสุลใหญ่ฯ ได้เข้าไปให้การดูแลและติดตามอาการผู้ป่วยอยู่เสมอ รวมถึงคอยประสานงานกับแพทย์และหน่วยงานทีเกี่ยวข้องในเรื่องการส่งตัวผู้ป่วยกลับไปประเทศไทย จนปัจจุบันอาการของผู้ป่วยเริ่มดีขึ้น และแพทย์ได้ให้ความเห็นว่าสามารถส่งตัวกลับไปรักษาต่อที่ภูมิลำเนาได้ สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงได้ทำการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายซาอุดีฯ และฝ่ายไทย รวมถึงสายการบินในการเตรียมการและอำนวยความสะดวกในการส่งตัวผู้ป่วยกลับประเทศไทย ซึ่งมีกำหนดเดินทางในวันที่ 9 กรกฎาคม 2562 โดยสายการบินซาอุดีอาระเบีย เวลา 22.45 น. โดยมีแพทย์จากโรงพยาบาลฯ เดินทางไปด้วยเพื่อคอยดูแลผู้ป่วยไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะมีการจัดรถพยาบาลรอรับ และเดินทางเข้าประเทศไทยทางด่านสุไหงโกลกต่อไป

ในโอกาสเดียวกันนี้ กงสุลใหญ่ได้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยที่ห้องพักรักษาตัว โดยมีภรรยาซึ่งคอยดูแลผู้ป่วยอยู่ด้วย โดยกงสุลใหญ่ได้กล่าวให้กำลังใจผู้ป่วยและภรรยา และอวยพรให้เดินทางกลับไปรักษาตัวที่ประเทศไทยและหายจากอาการป่วยในที่สุด ซึ่งผู้ป่วยและภรรยาได้แสดงความขอบคุณกงสุลใหญ่ และเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ที่คอยให้การดูแล และให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดีตลอดมา จนสามารถเดินทางกลับไปรักษาตัวต่อที่ประเทศไทยได้

อนึ่ง ในค่ำวันเดียวกันนี้ เวลา 23.23 น. ผู้ป่วยดังกล่าวได้เดินทางออกจากสนามบินเมืองเจดดาห์ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ด้วยเที่ยวบินที่ SV836 พร้อมด้วยภรรยาและแพทย์ซาอุดีฯ ที่เดินทางไปส่งเป็นที่เรียบร้อย โดยกงสุลใหญ่ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เดินทางไปอำนวยความสะดวกและประสานงานที่โรงพยาบาล สนามบินเมืองเจดดาห์เพื่อให้เกิดความราบรื่นในการขนส่งผู้ป่วย และยังได้ไปอำนวยการส่งผู้ป่วยที่สนามบิน โดยมีนายแพทย์ซุลกิฟลี ยูโซะ หัวหน้าสำนักงานแพทย์เพื่อกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทยร่วมในการส่งด้วย ทั้งนี้เที่ยวบินดังกล่าวมีกำหนดจะถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 10 กรกฎาคม 2562 เวลา 12.25 น. โดยจะเดินทางต่อด้วยรถพยาบาลพร้อมทีมแพทย์ไปยังโรงพยาบาลสุไหงโกลกต่อไป ซึ่งสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานกับ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองโกตาบารู และสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวจังหวัดยะลา ในการช่วยประสานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่รถพยาบาลระหว่างการเดินทางต่อไปไว้ด้วยแล้ว