เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2558 เวลา 15.00 น. ณ ที่ทำการสถานกงสุลใหญ่ฯ นายฐานิศร์ ณ สงขลา กงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ พร้อมข้าราชการสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ให้การต้อนรับนายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในโอกาสที่เดินทางมายังซาอุดีอาระเบียเพื่อเยี่ยมผู้แสวงบุญชาวไทยจำนวน 216 คนที่มาประกอบพิธีฮัจย์ภายใต้โครงการ “ส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี 2558” ของศอ.บต.
ในการนี้ กงสุลใหญ่ฯ ได้กล่าวต้อนรับคณะเลขาธิการฯ และผู้แสวงบุญ ซึ่งต่อมาเลขาธิการ ศอ.บต. ได้พบปะกับผู้แสวงบุญ และแจ้งว่านายกรัฐมนตรีฝากความห่วงกังวลจากเหตุการณ์อุบัติเหตุที่มหามัสยิดซึ่งทราบว่ามีผู้แสวงบุญชาวไทยเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทยดูแลช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย และกล่าวถึงวัตถุประสงค์ที่ ศอ.บต. จัดโครงการดังกล่าวขึ้นมา โดยมีเจตนารมณ์ที่ต้องการให้ชาวไทยมุสลิมซึ่งเป็นญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้มีโอกาสเดินทางมาประกอบพิธีฮัจย์ตามหลักธรรมของศาสนา และว่าโครงการนี้ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 แล้ว โดยในปี 2558 นี้ได้ขอคำมั่นสัญญากับผู้แสวงบุญที่ไปประกอบพิธีฮัจย์ในโครงการของ ศอ.บต. 3 ข้อ ดังนี้ 1. จะดูแลบุตรหลานไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด 2. จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้สังคมและชุมชน และ 3. มีจิตสาธารณะ โดยจะต้องกลับมาร่วมกันสร้างครอบครัวคุณธรรมเพื่อให้เกิดความสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ได้ ทั้งนี้ เลขาธิการได้กล่าวขอบคุณสถานกงสุลใหญ่ฯ และกระทรวงการต่างประเทศที่ได้สนับสนุนภารกิจฮัจย์ด้วยดีเสมอมา อีกทั้งยังแจ้งว่า ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ได้ฝากความปรารถนาดีมายังผู้แสวงบุญ และขอให้ผู้แสวงบุญมีสุขภาพ พลานามัยดี ประกอบศาสนกิจสำเร็จตามความมุ่งหวัง
เลขาธิการ ศอ.บต.ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระดับธุรกิจ/ประชาชนระหว่างซาอุดีฯกับไทยว่า ขณะนี้อยู่ในบรรยากาศที่ดี และได้มีโอกาสพบกับนักธุรกิจซาอุดีฯที่เดินทางไปประเทศไทยหลายราย อนึ่ง ในโอกาสดังกล่าว นายสมศักดิ์ ชุ่มชื่น ในฐานะตัวแทนชุมชนไทยได้มอบจดหมายให้กำลังใจและชื่นชมการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมทั้งขอให้นายกรัฐมนตรีช่วยกรุณาพิจารณาฟื้นฟูความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีฯ ผ่านเลขาธิการ ศอ.บต. ซึ่งเลขาธิการฯ รับจะนำความกราบเรียนนายกรัฐมนตรีต่อไป