สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ จึงขอแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประโยชน์ในการเตรียมการของผู้แสวงบุญ และบริษัทนำเที่ยว
ที่ประสงค์จะนำผู้แสวงบุญมายังซาอุดีฯ ดังนี้
1. คุณสมบัติของผู้เดินทาง
1.1. วัคซีนโควิด-19 มีรายละเอียด ดังนี้
1.1.1 วัคซีนที่ได้รับการยกเว้นจากการกักตัว ได้แก่ (1) Pfizer-BioNTech 2 เข็ม (2) Moderna 2 เข็ม (3) Oxford-AstraZeneca 2 เข็ม (4) Johnson & Johnson’s Janssen 1 เข็ม (5) Sinovac 2 เข็ม ตามด้วยวัคซีน booster ชนิดใดชนิดหนึ่งจากข้อ (1) – (4) อย่างน้อย 1 เข็ม และ (6) Sinopharm 2 เข็ม ตามด้วยวัคซีน booster ชนิดใดชนิดหนึ่งจากข้อ (1) – (4) อย่างน้อย 1 เข็ม ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ตามที่ระบุในข้อ 1.1.1 นี้ สามารถเดินทางเข้าซาอุดีฯ เพื่อประกอบพิธีอุมเราะห์ได้ทันทีนับจากวันที่ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองหรือเข็ม booster ยกเว้นผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิด Johnson & Johnson’s Janssen ที่จะเดินทางเข้าซาอุดีฯ ได้ภายหลังระยะเวลา 14 วัน เมื่อได้รับวัคซีน
1.1.2 วัคซีนที่ต้องเข้ารับการกักตัว ได้แก่ (1) Sinovac 2 เข็ม (2) Sinopharm 2 เข็ม (3) Covaxin 2 เข็ม และ (4) Sputnik V 2 เข็ม ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่ระบุในข้อ 1.1.2 เมื่อเดินทางมาถึงซาอุดีฯ จะต้องเข้ารับการกักตัวเป็นระยะเวลา 3 วัน และต้องได้รับผลตรวจโควิดที่เป็นลบภายหลัง 48 ชั่วโมง จากการเดินทางเข้าซาอุดีฯ จึงจะสามารถประกอบพิธีอุมเราะห์ได้
อนึ่ง ทางการซาอุดีฯ กำหนดให้ต้องเว้นระยะการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และ 2 อย่างน้อย 28 วัน
1.2. เป็นผู้ที่มีอายุ 12 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
2. ก่อนเดินทาง
ก่อนการเดินทางไม่เกิน 72 ชม. และต้องนำผลการลงทะเบียนพร้อมกับสมุดวัคซีนโควิด-19 (เล่มสีเหลือง) ไปแสดงต่อสายการบินในวันเดินทาง
2.2. ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยนับจากเวลาที่เดินทางถึงซาอุดีฯ
2.3. ลงทะเบียน Thailand Pass ผ่านเว็บไซต์ tp.consular.go.th ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนเดินทางกลับเข้าประเทศไทย (แต่ต้องไม่เกิน 60 วัน โดยนับจากวันที่เดินทางถึงประเทศไทย) โดยอัพโหลดเอกสารที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ 1) หนังสือเดินทาง 2) หลักฐานการได้รับวัคซีน และ 3) หลักฐานการจองและการชำระเงินค่าโรงแรม Sha Extra+ หรือ AQ (ในวันที่เดินทางถึง และวันที่ 5 ค่าตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง และพาหนะรับส่งจากสนามบิน) ทั้งนี้ ระบบจะอนุมัติคำร้องผ่านระบบออนไลน์และจะส่งใบอนุญาตให้ทางอีเมล์
3. เมื่อเดินทางถึงซาอุดีฯ
3.1 ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ โดยขอให้เตรียมใบรับรองการฉีดวัคซีนฉบับจริงไว้แสดงแก่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขประจำท่าอากาศยานที่เดินทางมาถึง
3.2 ซื้อ SIM Card โทรศัพท์มือถือเพื่อลงทะเบียนเข้าใช้แอพพลิเคชั่น Tawakkalna (Covid-19 KSA) ในโทรศัพท์มือถือ โดยเมื่อเข้าใช้งานแล้วระบบจะแสดงสถานะการฉีดวัคซีน ซึ่งจะต้องแสดงแก่เจ้าหน้าที่ในการเข้ามัสยิดและสถานที่สาธารณะทุกแห่ง
4. ระหว่างพำนักอยู่ในซาอุดีฯ
4.1 การไปละหมาด 5 เวลา ในมัสยิดนะบะวีย์ เมืองมาดีนะห์ สามารถเดินทางไปได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการจองล่วงหน้า โดยขอให้แสดงแอพพลิเคชั่น Tawakkalna (Covid-19 KSA) แก่เจ้าหน้าที่
4.2 การเข้าไปละหมาดในเขตเราเฎาะห์และการไปเยี่ยนเยียนหลุมฝังศพของศาสดาที่มัสยิดนะบะวีย์เมืองมาดีนะห์ รวมทั้งการไปละหมาดที่มัสยิดฮะรอม เมืองมักกะห์ และการประกอบพีธีอุมเราะห์ จำเป็นต้องทำการจองล่วงหน้า ซึ่งบริษัทนำเที่ยวจากประเทศไทยที่นำผู้แสวงบุญมายังซาอุดีฯ จะเป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ดี ผู้แสวงบุญสามารถทำการจองได้เองผ่านแอพพลิเคชั่น Tawakkalna (Covid-19 KSA) หรือ Eatmarna
4.3 ขอให้ผู้แสวงบุญสวมหน้ากากอนามัยและปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง (distancing) รวมถึงข้อกำหนดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่ดครัด เนื่องจากทางการซาอุดีฯ กำหนดบทลงโทษทั้งจำและปรับสำหรับการละเมิดมาตรการป้องกันโควิด-19
4.4 กรณีมีเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน สามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน 056 808 1224 หรือ 056 821 2203 ได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่ตอบคำถามทั่วไปผ่านหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินดังกล่าว
5. การเดินทางกลับประเทศไทย
5.1 ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสาร Thailand Pass รวมทั้งเอกสารอื่น ๆ ที่ต้องแสดงต่อสายการบินล่วงหน้าอย่างน้อย 5 วันทำการ (วันอาทิตย์ - วันพฤหัสบดี) ก่อนวันเดินทาง เพื่อให้มีเวลาเพียงพอในกรณีที่ต้องมีการแก้ไขเอกสาร
5.2 การเดินทางกลับเข้าโครงการ Test & Go ผู้เดินทางจะต้องดำเนินการ ดังนี้
5.2.1 ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรือในกรณีที่มีผลตรวจเป็นบวก ต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่าเป็นผู้เคยติดเชื้อและหายแล้ว (ติดเชื้อมาแล้วไม่น้อยกว่า 14 วัน แต่ไม่เกิน 3 เดือน)
5.2.2 แสดงหลักฐานการจองและการชำระเงินโรงแรม SHA Extra+ หรือ AQ ในวันที่เดินทางถึงและวันที่ 5 โดยในวันเดินทางถึง ต้องมีการชำระค่าตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 1 และค่าพาหนะรับส่งจากสนามบิน และในวันที่ 5 ต้องมีค่าตรวจ RT-PCR ครั้งที่ 2 (สามารถจองโรงแรมต่างกันได้ระหว่างวันที่ 1 และ 5) ทั้งนี้ เหตุผลที่ต้องสำรองที่พักใน
วันที่ 5 ก็เพื่อให้มีสถานที่พักรอ และเพื่อประโยชน์ในการติดตามการควบคุมโรค รวมทั้งป้องกันกรณีผู้ติดเชื้อไม่รายงานตัวเข้ารับการรักษาหรือกักตัวตามข้อกฎหมายและมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข
6. ข้อมูลเพิ่มเติม หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเดินทางเข้าซาอุดีฯ และการเดินทางกลับประเทศไทยสามารถสอบถามผ่าน Facebook ของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ หรือหมายเลขโทรศัพท์ 012-6655317 ต่อ 0